บ้านฟาซาดธรรมชาติ
บ้านฟาซาดธรรมชาติ
บ้านฟาซาดธรรมชาติ บ้านยุคใหม่ไม่ได้ใส่ใจเพียงแค่ความสวยของดีไซน์เท่านั้น แต่ยังเน้นองค์ประกอบที่สะท้อนถึงความเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้สีเขียว หรือการออกแบบตัวโครงสร้างให้เต็มไปด้วยช่องแสง ช่องลม เพื่อให้อากาศและแสงธรรมชาติถ่ายเทได้สะดวก
สร้างความเชื่อมโยงระหว่างภายในและภายนอกให้ยิ่งชิดใกล้เหมือนเป็นสิ่งเดียวกัน ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออก ลองแวะมาชมบ้านเรือนกระจกหลังนี้ที่นอกจากไม่ร้อนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความเย็นสบาย มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความสดชื่นเสมือนได้อยู่กลางป่าที่โอบล้อมไว้รอบตัว ที่พักนครศรีธรรมราช
บ้านท่ามกลางแมกไม้ รู้สึกเหมือนอยู่กลางป่าส่วนตัว
บ้านพื้นที่ 352 ตร.ม. หลังนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขาทางตะวันตกของเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม ด้วยพื้นที่ก่อสร้างมีลักษณะลาดเอียงไปข้างหน้า และมีความสวยงามโดยธรรมชาติของภูมิประเทศโดยรอบ กลุ่มสถาปนิกจึงเกิดไอเดียวางตัวอาคารบนจุดที่สูงที่สุดของพื้นที่ ดีไซน์แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น ให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และทำพื้นที่เปิดโล่งรับหญ้าเขียวขจีและอากาศบริสุทธิ์ภายนอกได้อย่างเต็มที่ บ้านจึงเป็นเสมือนจุดชมวิวที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเนินเขาโดยรอบ แบบบ้านไม้
บ้านมีลักษณะลึกยาวออกแบบให้มองเห็นได้หลายด้าน แต่ด้านที่มีสเต็ปบันไดจะดึงดูดสายตากับชั้นของไม้เลื้อยที่ตั้งใจปลูกให้บ้านปกคลุมด้วยซุ้มสีเขียว ส่วนวัสดุจะมีทั้งโครงสร้างเหล็ก คอนกรีตมวลเบา อลูมิเนียม และประตูกระจก ที่ทำให้บ้านมีหลากหลายอารมณ์ สำหรับการจัดสัดส่วนฟังก์ชันจะใช้พื้นที่ครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ช่วยให้สมามชิกในบ้านเข้าถึงธรรมชาติ และอีกครึ่งหนึ่งสำหรับความต้องการที่จำเป็นของครอบครัว
ชั้นที่หนึ่งและสองเป็นเหมือนกล่องซ้อนกันสองกล่อง ที่มีช่องว่างสานกันอย่างต่อเนื่องภายใน เพื่อให้เกิดระบบการระบายอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำแสงจากธรรมชาติเข้าสู่ทุกมุม สร้างสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้กับตัวบ้าน มุมมองที่ถูกแทรกซึมผ่านช่องว่างหลายชั้น จึงเกิดความลึกของพื้นที่
บ้านจึงมีทั้งมิติของความกว้าง ความลึก และสูงโปร่งจากโถงสูง Double Space ใจกลางบ้าน ภายในบ้านตกแต่งโดยใช้สีไม้เป็นหลัก เนื่องจากข้อจำกัดของสี แสงจึงถือเป็นองค์ประกอบในการตกแต่งเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ทางสายตาและความสวยงาม และในขณะเดียวกันก็นำความรู้สึกผ่อนคลายมาสู่เจ้าของบ้าน
จากชั้นล่างขึ้นสู่ชั้นบนจะมีจุดโฟกัสสายตาอยู่ที่บันได ทำจากคอนกรีตกรุทับด้วยไม้ลอยตัวอย่างท้าทาย ยึดโยงด้วยราวเหล็กข้ออ้อยดิบๆ ช่วยให้บ้านดูโปร่ง เบา อากาศและแสงสว่างเดินทางตามช่องว่างได้ดี สถาปนิกแยกบันไดออกเป็นสองทาง
นำขึ้นสู่สองด้านของบ้านที่จะขึ้นไปตามโซนห้องพักด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านเป็นห้องโถงโล่งๆ สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนแบบอเนกประสงค์ ตัวบันได ทางเดิน ชั้นลอยล้อมรอบที่ว่างที่อยู่ตรงกลางบ้านขนาดใหญ่เอาไว้ ซึ่งจะมีพื้นที่ว่างและห้องกระจกที่สามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ผ่านผ้าม่านสีเทาสูงหลายเมตร
ห้องโถงขนาดใหญ่ในชั้นบนมีผนังกระจกและประตูสูงจากพื้นจรดเพดานตลอดแนว สร้างการหมุนเวียนของอากาศเย็นให้เข้าสู่ภายในพร้อมๆ กับระบายอากาศร้อนออกจากตัวบ้าน และขยายมุมมองจากบ้านไปยังเชิงเขาได้เต็มที่ บานกระจกที่มีหลายชั้นช่วยให้คนในบ้านเข้าถึงธรรมชาติได้ง่าย และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้รับผลกระทบจากเสียงรบกวนจากภายนอกมากเกินไป เนื่องจากมีฉนวนกันเสียงที่ดี
ทางเดินบนระเบียงด้านหน้าปกคลุมด้วยสีเขียวของใบไม้ตลอดแนว ช่วยบดบังลดแสงแดดที่รุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการแผ่รังสีความร้อนจากทิศตะวันตกได้ดี นอกจากนี้ยังทำหน้าที่กรองฝุ่น สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายใน ลดข้อด้อยของกระจกโปร่งใสที่มองเห็นทะลุปรุโปร่งได้อย่างดี
กลับมาที่ชั้นลอยโครงสร้างเหล็กผนังกระจก จุดนี้เกิดจากความแตกต่างของระดับความสูงระหว่างชั้นล่างและชั้นบน เป็นเฉลียงที่ออกแบบให้เชื่อมมุมมองจากเชิงเขากับตัวบ้าน และในทางกลับกัน การขยายพื้นที่ชั้น 2 เหนือบล็อกชั้น 1 และชั้นลอยทำให้บ้านสามารถควบคุมมุมรับแดดและสร้างความร่มรื่นบริเวณชั้นล่างได้ พื้นที่ร่มระหว่างชั้น 2 และชั้นลอยทำหน้าที่เป็นกันชน ทำให้อากาศถ่ายเทและเย็นสบาย แต่ละพื้นที่ในบ้านล้วนมีการคำนวณอย่างรอบคอบเพื่อให้แสงธรรมชาติและพื้นที่ส่วนตัวสมดุลกัน
ไม่เฉพาะด้านที่ติดกับระเบียงทิศตะวันตกเท่านั้นที่มีการออกแบบให้บ้านกับธรรมชาติมีความชิดใกล้ ในด้านยาวของบ้านก็ออกแบบให้อาคารกับต้นไม้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกัน โดยสร้างช่องว่างขนาดใหญ่โอบล้อมต้นไม้เอาไว้ รอวันที่ต้นไม้เติบโตให้ร่มเงา คนและบ้านก็ได้ประโยชน์จากการพึ่งพาอาศัยกัน
: สำหรับบ้านที่ต้องการติดกระจกในบริเวณกว้าง แต่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและแสงที่ทำให้บ้านร้อน สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยธรรมชาติที่ให้กำไรได้หลายต่อ เช่น การปลูกต้นไม้เลื้อยไปตามซึ่ Facade ให้ใบไม้เขียว ๆ ที่แตกใบทึบช่วยทำหน้าที่กรองแสง ซึมซับอากาศเสียจากควันและฝุ่น และเพิ่มอากาศดี ๆ ให้ตัวอาคาร นอกจากนี้ต้นไม้ยังช่วยบดบังสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้บ้านได้ด้วย
Green House สร้างบ้านให้เหมือนอยู่ในป่า
บ้านโมเดิร์นที่ดูเหมือนห้อมล้อมด้วยป่าหลังนี้ อยู่ในประเทศเวียดนาม เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของการออกแบบที่ตอบสนองความต้องการของเจ้าของ มากกว่าที่จะตอบสนองรสนิยมของสถาปนิก เจ้าของเป็นคู่ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ และเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายในชีวิต
แถมยังมีความคิดทางสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน สามีชอบสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ ส่วนภรรยาชอบสิ่งที่เป็นประโยชน์ ใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริงและสะดวกสบาย สถาปนิก Tran Le Quoc Binh จึงนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวล แล้วออกแบบบ้านที่เต็มไปด้วยความสมดุลระหว่างงานศิลป์ ธรรมชาติ กับการใช้ชีวิต
ตัวบ้านสร้าง 2 ชั้น ดีไซน์ภายนอกมีรูปลักษณ์ไม่เหมือนใครกับช่องเปิดขนาดใหญ่ รั้วหน้าบ้านและบนอาคารถูกแทรกด้วยสีเขียวขจี ต้นไม้เหล่านี้ไม่เพียงทำให้อาคารดูสดชื่นขึ้น แต่ยังให้ความเย็นสบาย สร้างร่มเงา และช่วยป้องกันตัวบ้านจากฝุ่นละออง ควัน จากถนนได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับคนที่อยากได้บ้านที่เป็นเหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ย่อมอยากเห็นความไม่ธรรมดา ซึ่งสถาปนิกก็จัดให้ด้วยการตีความใหม่ จากอาคารที่ต้องเป็นกล่องสี่เหลี่ยมตรงไปตรงมาก็ใส่เส้นเฉียงตัดกับเส้นระนาบ เจาะช่องแสงวงกลมสลับกับสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทุกพื้นที่ว่างปลูกต้นไม้ทั้งน้อยใหญ่ ทำให้บ้านกลายเป็นเหมือนกระถางใบใหญ่ปลูกต้นไม้ให้งอกออกมา
รอบ ๆ บ้านมีลานเปิดโล่งกลางแจ้ง ตกแต่งสนามหญ้าสีเขียวขนานไปกับชาน และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่ทำให้บ้านได้รับอณูของความเย็นสบายจากต้นไม้และน้ำ เชิญชวนให้ออกจากบ้านมาทำกิจกรรมสนุก ๆ ข้างนอก
ภายในหลากสไตล์ตามใจผู้อยู่
พื้นที่ภายในเน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก ซึ่งทุกรายละเอียดจะได้รับการดูแลอย่างระมัดระวัง ซึ่งเจ้าของได้กำหนดโจทย์ที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกครั้งที่พวกเขากลับมาบ้านจะผ่อนคลายยิ่งกว่าอยู่ในโรงแรมหรือรีสอร์ทที่ไหน ๆ ด้านหน้าและด้านนอกตั้งใจให้เขียวขจีสดชื่นทำให้สามีมีความสุข ในขณะที่การตกแต่งภายในที่หรูหราทำให้ภรรยาพึงพอใจในทุกฟังก์ชั่น
ทุกพื้นที่ออกแบบตามสไตล์และความต้องการของเจ้าของ ตกแต่งด้วยวัสดุแตกต่างสร้างความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน ในฝั่งซ้ายห้องทานอาหารถูกปกคลุมด้วยพื้นและเพดานไม้ ดูอบอุ่นและมีกลิ่นอายความเป็นพื้นถิ่นร่วมสมัย ส่วนห้องนั่งเล่นฝั่งขวาตกแต่งผนังกระจกสูงสองชั้นดูโอ่โถง บนเพดานสร้างความสะดุดตาน่าประทับใจกับเส้นลวดสีทองที่เกี่ยวพันกันเหมือนรังนกขนาดใหญ่เหนือเพดาน แม้จะดูต่างแต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ทุกพื้นที่ต้องมุมมองออกสู่สวนและสระน้ำ รับความสดชื่นได้เท่า ๆ กัน
องค์ประกอบของน้ำจาก infifnity pool เป็นส่วนหนึ่งของสวนที่จัดสไตล์ทรอปิคอล มีน้ำตกผนังสไตล์โมเดิร์นปล่อยน้ำลงมาในสระตลอดเวลา เป็นจุดเด่นของสวนและสระที่น่าสนใจ สร้างเสียงน้ำที่ฟังเพลิน ๆ เพิ่มบรรยากาศความเป็นธรรมชาติที่แสนชุ่มชื่นได้เป็นอย่างดี
สำหรับห้องครัวออกแบบให้เคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L ตามรูปร่างของห้อง 1 จุด และฝั่งตรงข้ามอีก 1 จุด มีฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ครบครัน ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย หยิบจับใช้งานได้ง่ายวางระยะห่างระหว่างเคาน์เตอร์ครัวมายังไอส์แลนด์เตรียมของที่กว้างขวางพอรองรับการใช้งานพร้อมกันหลายคนได้สบาย ๆ
ประตูกระจกเปิดออกสู่สวน เอาให้การเตรียมปรุงอาหารเต็มไปด้วยความสุนทรีย์ บนเพดานกรุฝ้าด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มให้ความรู้สึกอบอุ่นร่วมสมัย นอกจากนี้ยังมีส่วนใส่ระแนงไม้โปร่ง ๆ เปิดให้แสงส่องลอดเข้ามาเติมความสว่างภายในแบบไม่ร้อน
ในจุดที่ต้องการการกั้นกรองแสงแต่ก็ยังอยากให้ภายในบ้านได้รับลม ทิวทัศน์ภายนอก สถาปนิกใช้วิธีใส่ Double skin facade หรือการทำผนังสองชั้น ชั้นนอกสุดเป็นไม้ระแนงที่วางตำแหน่งให้มีระยะห่าง เป็นช่องว่างให้ลมผ่านเข้ามาและติดต่อสื่อสารกับภายนอกได้ ในขณะที่แสงถูกกั้นไว้บางส่วน ผนังชั้นในเป็นประตูบานเลื่อนกระจก
สามารถเลื่อนปิด-เปิดได้ตามใจ วิธีนี้จะทำให้การใช้งานผนังมีความยืดหยุ่นขึ้นมากกว่าการก่ผนังปิดทึบแล้วใส่ช่องแสงเล็ก ๆในห้องนั่งเล่นยามค่ำที่เปิดแสงไฟในบ้านทำให้เห็นเงาของ Wirework ทรง “รังนก” ขนาดใหญ่บนเพดานที่ตกกระทบทั่ววบริเวณ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับผนังกรุด้วยแผ่นไม้รอบ ๆ ลิฟต์มองดูคล้ายกับรังนกและต้นไม้ขนาดใหญ่ หากมองเลยลึกเข้าไปจะเห็นแผงกันตกสลักลวดลายดอกไม้สลับซับซ้อน เหมือนยกป่าเข้ามาเก็บไว้ในบ้าน
บรรยากาศสวนน้ำแสนสงบ ตกแต่งให้มีกลิ่นอายของญี่ปุ่นด้วยการวางเก๋งหิน ตกแต่งต้นไม้ฟอร์มสวย ในบ่อมีไฟตกแต่งใต้น้ำส่องให้เห็นฝูงปลาคาร์พตัวใหญ่ที่แหวกว่ายอยู่อย่างมีความสุข read more : assetdata.land
Facade หรือเปลือกอาคารอิฐฉาบเรียบใส่ประตูหน้าต่างแบบเดิมๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์เจ้าของบ้านที่มีความแตกต่างออกไป ในยุคนี้ที่โลกร้อนขึ้น มีทั้งฝุ่นพิษ ควันพิษ จึงมีความพยายามผสมผสานธรรมชาติเข้าไปเป็นองค์ประกอบของอาคาร ให้ธรรมชาติช่วยซึมซับบรรเทาปัญหาเหล่านี้ ด้วยการทำ Green Facade เปลือกบ้านสีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้ เป็นไม้เลื้อยบนระแนง สวนแนวตั้ง ที่เป็นเสมือนปอดของบ้าน สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีเพิ่มคุณภาพชีวิตดี ๆ ให้เจ้าของบ้าน