แต่งห้องมินิมอล
แต่งห้องมินิมอล
แต่งห้องมินิมอล ไอเดียจัดห้องนอนสไตล์มินิมอล แต่งน้อยแต่สวยมาก ยังไงก็ไม่ตกเทรนด์!! สำหรับใครที่มีห้องนอนขนาดเล็ก และเป็นกังวลว่าจะไม่สามารถตกแต่งให้สวยปิ้งได้ดั่งใจ ด้วยพื้นที่อันจำกัด ที่กลัวว่าหากแต่งมากเข้าก็จะรก อึดอัด อยู่ไม่สบาย หายห่วงไปได้เลยค่ะ
ด้วยการจัดแต่งห้องนอนสไตล์มินิมอล แต่งน้อยๆ ยิ่งนอนสบาย แถมยังแต่งตามได้ง่ายดายอีกด้วยค่ะMinimal Style หลายคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการตกแต่งสไตล์นี้นับว่าเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ งานดีไซน์ หรือการออกแบบตกแต่งก็ตาม จุดเด่นที่ไม่เพียงแค่ความเรียบง่าย เน้นเฟอร์นิเจอร์เพียงน้อยชิ้น แต่หากครบครันด้วยฟังก์ชั่นใช้สอย
มินิมอล (Minimal) หรือ มินิมอลลิสม์ (Minimalism) เป็นกระแสหนึ่งของกลุ่มศิลปินในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 กระแสนี้เกิดจากความเบื่อหน่ายกับกระแสงานศิลป์แบบ Abstract Expressionism ซึ่งเจริญรุ่งเรืองและมีอิทธิพลมากในอเมริกายุคนั้น ศิลปะแบบ Abstract Expressionist เป็นการสะบัดสีสันลงในงาน
เพื่อแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึก แต่ศิลปะแบบมินิมอลลิสต์ เป็นการถ่ายทอดสิ่งที่เรียบง่ายที่สุด ตัดทอนสิ่งอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น และแสดงออกถึงการมีอยู่ตามความที่เป็นจริงแบบตรงไปตรงมา วัตถุทรงกลม ก็คือทรงกลม สี่เหลี่ยมจัตุรัสก็คือ สี่เหลี่ยมจัตุรัส
นอกจากการมีอิทธิพลต่อเหล่าศิลปินที่ทำงานศิลปะแล้ว กระแสมินิมอล ยังกระจายไปยังงานศิลปะด้านอื่นๆ ทั้งงานสถาปัตยกรรม งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ งานออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่การทำอาหาร จนกลายมาเป็นหลักการในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากวิถีการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่มีการผสมผสานแนวคิดแบบเซนเข้าไปด้วย
Less is more แต่งน้อยยิ่งนอนสบาย
รวมไปถึงการเลือกใช้โทนสีธรรมชาติจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ให้ความอบอุ่น ผสานเข้ากับความสว่างของโทนสีขาว หรือเฉดสีเอิร์นโทนก็ตาม บรรยากาศของการตกแต่งสไตล์มินิมอลอบอวลไปด้วยความผ่อนคลาย ทั้งนี้ในเรื่องของการจัดวางยังเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่เกะกะสายตา ทำให้ Minimal Style จึงเต็มไปด้วยความสงบ เรียบง่าย ชวนเอนกายหลับใหลยิ่งนัก และไอเดียที่เราคัดสรรมาฝากกัน จะมีแบบไหนถูกใจและชวนแต่งตามบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
เน้นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
หากพูดถึงสไตล์มินิมอล สิ่งสำคัญคือความเรียบง่าย โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่ดีไซน์จากวัสดุธรรมชาติ ควรเน้นเป็นแบบลอยตัว เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนได้ตามใจ อย่างบันไดวางพิงผนัง ก็ยิ่งเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนได้อีกเพียบ หรือโต๊ะข้างเตียงดีไซน์โปร่งโล่ง ก็ยิ่งเสริมให้ห้องดูโปร่งกว้าง ไม่ทึบตันหากเทียบกับเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน และควรเน้นโทนสีที่ให้ความนุ่มนวล สบายตา ก็จะยิ่งเพิ่มความอบอุ่นให้ห้องนอนเต็มไปด้วยความผ่อนคลายมากขึ้น
เน้นฟังก์ชั่นที่ครบครัน
แม้ห้องนอนจะไซส์เล็กแค่ไหน ก็สามารถตกแต่งให้สวยมีสไตล์ได้ในแบบมินิมอล หลักง่ายๆ เพียงเน้นเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบง่าย ไม่เยอะหรือซับซ้อน เลือกเฉพาะชิ้นที่มีความจำเป็น หรือจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นก็ล้วนตอบโจทย์ เน้นโทนสีธรรมชาติ เพื่อสร้างความรู้สึกที่อบอุ่น นุ่มนวล
ตามเอกลักษณ์ของสไตล์นี้ และเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้งานได้มากขึ้น ก็อาจลดทอนการใช้เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ที่ดูทึบตันเทอะทะลงอย่างตู้เสื้อผ้า ก็อาจแทนที่ด้วยราวแขวนที่สามารถ DIY ด้วยตัวเองง่ายๆ จากกิ่งไม้ดีไซน์ห้อยจากเพดานลงมา หรือหากชอบความสะดวกสบาย ก็สามารถซื้อแบบสำเร็จรูปมาจัดวางก็ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นราวแขวนจากเหล็ก หรือไม้ เลือกดีไซน์โปร่งโล่ง เพียงเท่านี้ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อีกเยอะเลยละค่ะ
ขาวดำกำลังดี
เรียบแต่ดูเท่ด้วยคู่สีแบบ Monochrome อย่างสีขาวดำ แม้จะดูเบสิกแต่ยังคงความคลาสสิคตลอดกาล เพราะไม่เพียงบ่งบอกถึงความทันสมัย แต่ยังเสริมให้บรรยากาศในห้องนอนของเราดูเรียบหรู และดูชิคในคราเดียว เคล็ดลับง่ายๆ แบบไม่ยุ่งยากที่เรานำมาฝากกันหากห้องของผู้อ่านกรุผนังด้วยกระเบื้อง หรือฉาบทาด้วยโทนสีขาว
ให้เลือกวางด้วยเฟอร์นิเจอร์สีดำ เช่นหากวางฟูกนอนสีขาว ก็อาจวางตัดด้วยหมอนหรือผ้าคลุมเตียงสีดำ หรือเน้นเป็นเฟอร์นิเจอร์สีดำไปเลย ก็จะยิ่งเสริมให้ห้องนอนดูโปร่งโล่งสบายขึ้นด้วย แต่ถ้าหากห้องนอนของเราเป็นสีดำละก็ ก็ให้วางตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาว บรรยากาศก็ยิ่งดูมีมิติ ชวนค้นหามากขึ้น
เตียงนอนไม้พาเลท ชิคๆ สไตล์ฮิปสเตอร์
อีกหนึ่งไอเดียที่ทำให้คุณลืมภาพเตียงนอนราคาแสนแพงไปได้เลย โดยเฉพาะชาวคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดเป็นต้องถูกใจ กับเตียงนอนไม้พาเลท งบเบาแต่สวยแพงในแบบมินิมอล เพียงนำไม้พาเลทมาวางกับพื้นห้อง ให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ จะวางชั้นเดียว หรือสองชั้นก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
ที่สำคัญจะต้องไม่กินพื้นที่จนเกินไป เพราะอาจทำให้ห้องดูคับแคบลงทั้งนี้เรายังสามารถ DIY ด้วยการฉาบทาให้ได้สีสันตามต้องการ แนะนำให้เน้นเป็นสีขาวเพื่อไม่ให้หลุดคอนเซ็ปต์ Minimal Style นะคะ ในส่วนของตกแต่งอื่นๆ ก็สามารถวางกับพื้น โดยไม่ต้องง้อชั้นวางได้เช่นกัน เท่านี้ก็ยิ่งเพิ่มความชิคให้ห้องนอนชวนถ่ายรูปอวดลงโซเซียลไม่น้อยเลยล่ะ
หลอดไฟห้อย เท่ได้ในสไตล์มินิมอล
เติมความสว่างให้ห้องนอนหลุดจากกรอบเดิมๆ จากเดิมเราอาจวางด้วยโคมไฟตั้งโต๊ะ หรือโคมไฟแบบตั้งพื้นทั่วไป ลองเปลี่ยนมาตกแต่งด้วยโคมไฟห้อยจากหลอดเอดิสัน ที่โชว์ให้เห็นสายไฟเปลือยๆ กันดูบ้าง สามารถสร้างลูกเล่นด้วยการห้อยระย้าลงมาจากเพดาน หรือครีเอทรูปแบบการห้อยของสายไฟให้ห้อยได้ตามต้องการแต่อย่าให้ดูยุ่งเหยิงก็พอ สามารถห้อยแขวนได้ทั้งบริเวณกลางเตียง หัวเตียง หรือข้างเตียงก็แล้วแต่การใช้งาน นอกจากจะสร้างบรรยากาศที่ชวนผ่อนคลาย ห้องนอนของเราก็มีสไตล์ยิ่งขึ้นด้วย
คูลได้ไม่ง้อเตียง
สายฮิปสเตอร์เป็นต้องถูกใจ กับการตกแต่งห้องนอนให้หลับสบายได้โดยไม้ต้องง้อเตียง แถมยังช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้เป็นกอง แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กลับเป็นที่นิยมเรื่อยมา และไม่ต้องกังวลในการสรรหาเตียงราคาแพงๆ เพียงเลือกฟูกนอนนุ่มๆ ที่ถูกใจ วางบนพื้นห้อง เน้นชุดเครื่องนอนโทนสีขาวที่ให้ความเรียบง่าย
ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือจะคุมโทนด้วยสีขาว – ดำ หากอยากเพิ่มลูกเล่นขึ้นมาหน่อยก็สามารถสนุกได้ด้วยลวดลายกราฟิก ที่เหลือก็แค่วางเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นตามความจำเป็น แน่นอนว่ายิ่งทำให้การหลับใหลเต็มไปด้วยความสบายไม่แพ้นอนบนเตียง และไม่ต้องกลัวตกเตียง สำหรับใครที่ชอบนอนดิ้นอีกด้วย
เปิดรับแสงธรรมชาติ สร้างความนุ่มนวล
กลิ่นอายความเป็นมินิมอลในแบบฉบับญี่ปุ่น เน้นโทนสีขาวเป็นหลักที่สื่อถึงความเรียบง่าย โปร่งโล่งสบาย โดยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่าง เลือกใช้ผ้าม่านโปร่งแสงสีขาวออฟไวท์ เพื่อช่วยลดความจ้าของแสงแดด และยังช่วยเพิ่มความอบอุ่น นุ่มนวล เสริมบรรยากาศภายในห้องนอนดูละมุนชวนหลับใหลยิ่งขึ้น แถมในตอนกลางวันก็ไม่ต้องเปิดไฟให้สิ้นเปลืองอีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างคะ ถูกใจไอเดียไหนก็ลองนำไปประยุกต์ใช้กันดูนะคะ และอย่าลืมว่าหัวใจสำคัญของความมินิมอล ก็คือความเรียบง่าย เน้นเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นตามความจำเป็น นอกจากเราจะได้ห้องนอนที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังช่วยให้การหยิบจับใช้งานสิ่งของต่างๆ สะดวกมากขึ้น แถมยังลดใช้สิ่งที่ไม่จำเป็นลง ทำให้ห้องนอนของเรามีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นอีกเหลือเฟิ้อเลยทีเดียว
ใช้ชีวิตแบบมินิมอลช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า
แน่นอนว่าหากเรายึดหลักการของมินิมอล คือ ลดทอนหรือละทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็น ย่อมทำให้เราไม่ต้องเสียเงินไปกับของกระจุกระจิก ไม่ต้องเสียเงินกับของที่มีอยู่แล้ว หรือของที่ไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อนที่เราจะซื้ออะไรซักชิ้น ลองถามตัวเองว่าจำเป็นกับตัวเราหรือไม่? ของมันต้องมีจริงมั้ย? หรือซื้อมาแล้วจะได้ใช้จริงๆ หรือเปล่า?
มินิมอลช่วยคืนพื้นที่ให้ชีวิต
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับการใช้ชีวิตของคนเมือง หลายๆ คนเช่าหอพัก อพาร์ตเมนท์ คอนโดฯ หรือแม้แต่คนที่มีคอนโดฯเป็นของตัวเองก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราพบคือ ข้อจำกัดของพื้นที่ เมื่อเราใช้หลักมินิมอลในการเลือกซื้อของ ทำให้เรามีเฉพาะของที่จำเป็น ไม่ต้องเสียพื้นที่ไปกับการจัดเก็บของที่เราไม่ได้ใช้ ไม่ต้องเสียเงินซื้อตู้เพื่อเก็บของที่ไม่จำเป็น ทำให้รู้สึกถึงที่ว่างมากขึ้นในพื้นที่กำจัดของเรา หรือแม้แต่หาห้องพักที่เล็กลง ได้ราคาถูกลง เพราะไม่ต้องใช้พื้นที่ในการเก็บของที่ไม่จำเป็น
ใช้ชีวิตแบบมินิมอลช่วยลดความกังวล
เมื่อเรามีของน้อยชิ้น ความกังวลในวัตถุสิ่งของที่เป็นของเราก็น้อยลง ไม่ต้องดูแลมาก ไม่ต้องกลัวว่าของจะหาย ไม่ต้องคิดว่าของเหล่านี้จะเสื่อมเมื่อไหร่ ยังใช้ได้อยู่ไหม ทำยังไงให้ใช้ได้คุ้ม ซื้อมาจะคุ้มเงินไหม คำถามต่างๆ เหล่านี้เกี่ยวกับวัตถุที่เราครอบครองทำให้เรากังวล การทิ้งสิ่งของไม่จำเป็น ย่อมทำให้เราคลายกังวลนั่นเอง
มินิมอลช่วยให้เข้าใจความ “สำคัญ” และ “คุณค่า”
ในระหว่างการใช้ชีวิตแบบมินิมอล เราจำเป็นต้องตั้งคำถามเพื่อหาความสำคัญและความจำเป็นของสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ ทำให้เราสามารถแยกแยะความต้องการ และความสำคัญออกจากกัน เมื่อเราเจอความสำคัญของสิ่งสิ่งนั้นแล้ว เราก็จะรู้สึกถึงคุณค่าของสิ่งสิ่งนั้นมากขึ้น เช่น คนที่ชอบซื้อหนังสือเยอะๆ แต่ไม่ได้อ่าน หากเลือกที่จะซื้อเฉพาะเล่มที่สำคัญจริงๆ เราจะพบถึงคุณค่าของหนังสือเล่มนั้นเช่นกัน
ผลกระทบการใช้ชีวิตแบบ ‘มินิมอล’ สุดโต่ง
ถึงแม้หลักการดำเนินชีวิตแบบมินิมอลจะเป็นเรื่องที่ฟังดูดี ทั้งช่วยประหยัดเงิน ประหยัดพื้นที่และทำให้เราโฟกัสกับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ในชีวิตได้ แต่ความสุดโต่งในการใช้ชีวิตแบบมินิมอล ส่งผลต่อหลายๆ ด้าน ส่วนแรกคือ ด้านเศรษฐกิจ หากทุกคนใช้หลักมินิมอลแบบสุดโต่ง ย่อมส่งผลต่อการบริโภคและอุปโภคในตลาด เกิดความฝืดเคืองด้านเศรษฐกิจ
อีกปัญหาของการใช้หลักมินิมอลแบบสุดโต่ง และใช้กับทุกๆ เรื่องในชีวิตแบบขาดความสมดุล ทำให้การดำเนินชีวิตอึดอัดมากเกินไป เพราะของบางอย่างที่เราซื้อ สามารถสร้างความสุขให้ชีวิต บางคนชอบสะสมโมเดลการ์ตูนที่ชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดซื้อ เพราะของเหล่านั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อจิตใจ เป็นความสุขทุกครั้งที่ได้เห็น การจะนำหลักการมินิมอลไปใช้ในชีวิต ควรนำไปใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวันทั่วไปมากกว่า
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าเราจะยึดหลักการอะไรในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหลักการมินิมอล ก็ควรจะมีความสมดุล หรือแม้แต่หลักการแม็กซิมอล (Maximal) คือซื้อทุกสิ่งอย่างแม้จะไม่จำเป็น หากสุดโต่งเกินไป ก็ทำให้เกิดปัญหา ความอึดอัดในการดำเนินชีวิตได้เช่นกัน